หันไปทางไหนใครๆก็บ่นว่าปวดหลังไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม สามารถพบอาการปวดหลังได้เสมอ อาการปวดหลังคือความรู้สึกไม่สบายที่ตำแหน่งใดก็ได้บนแผ่นหลัง
ไล่ไปตั้งแต่ต้นคอ บ่า สะบัก เอว หลังล่าง รวมถึงตามแนวสันหลังทั้งหมด ซึ่งอาการปวดจะมีหลากหลายระดับตามความหนักเบาของสาเหตุที่เกิดขึ้น

สาเหตุของการปวดหลัง
โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตึงจากการใช้งาน ยิ่งเรามีการใช้กล้ามเนื้อมัดไหนมากก็จะตึงมาก หากไม่ได้ทำการยืดอย่างถูกวิธี หรือ ยืดคลายกล้ามเนื้อหลังจากออกแรง ก็จะทำให้ตึงจนเกิดอาการเมื่อยล้า หรือปวดขึ้นได้
และนอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆเพิ่มเติม เช่นโครงสร้างของร่างกายที่ไม่สมมาตร โรคทางต่อมไร้ท่อโรคผิดปกติของกล้ามเนื้อ การขาดวิตามินบางชนิดเป็นต้น ซึ่งนอกจากอาการปวดหลังแล้วยังสามารถพบอาการอื่นๆเพิ่มได้อีกด้วย เช่นมีอาการชาปวดร้าวลามไปที่อื่น รู้สึกอ่อนแรงคลื่นไส้อาเจียน กล้ามเนื้อลีบเล็กลง ทั้งนี้ควรจะรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆก่อนที่โรคจะลุกลามค่ะ
การรักษาทางแผนปัจจุบันกับการรักษาทางศาสตร์แพทย์จีน
ในการรักษาทางแผนปัจจุบันจะมุ่งตรงไปที่สาเหตุของการเกิดโรค และคลายกล้ามเนื้อเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการรักษาทางกายภาพบำบัด หรือ เข้ารักษากับแพทย์ทางเลือกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและไม่ต้องทานยาค่ะ
ในทางแพทย์แผนจีนจะใช้การรักษาโดยวิธีการฝังเข็มควบคู่กับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อมีการยืดหดๆ ผ่อนคลาย ช่วยกระตุ้นระบบประสาท กระตุ้นการฟื้นฟูลดการอักเสบบริเวณกล้ามเนื้อนั้นๆ และการฝังเข็มยังช่วยบรรเทาอาการอื่นๆเพิ่มเติมได้ดีอีกด้วย เช่น กลุ่มอาการชา ปวดร้าวลามไปที่อื่น เป็นต้น
นอกจากการฝังเข็มแล้วหากใครๆที่กลัวเข็ม การครอบแก้วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รู้สึกอุ่นๆหลัง ผ่อนคลาย และยังช่วยดูดความร้อน ความเย็น ความชื้นส่วนเกินในร่างกายออกมาได้ดีอีกด้วย และสุดท้ายก็คือการนวดทุยหนา ซึ่งเป็นการนวดแบบแผนจีนจะเน้นรีดเส้น กระจายลมปราณ ณ บริเวณที่ปวดทำให้โล่งและสบายตัวขึ้นค่ะ
และถ้าหากใครเป็นสายออแกนิคชื่นชอบสมุนไพรธรรมชาติยาจีนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ลมปราณหมุนเวียนดีขึ้นช่วยเสริมการรักษาทางหัตถการแผนจีนให้หายไวยิ่งขึ้นโดยสมุนไพรส่วนใหญ่จะเป็นประเภททะลวงลมปราณกระจายเลือดลมและยังช่วยบรรเทาอาการอื่นๆของคนไข้ได้ด้วย เช่นปวดหัวนอนไม่หลับ ท้องผูกเป็นต้น
เขียนโดย พจ.อินทิรา ทองรุ่ง