ลักษณะของฝ้ากระ
ฝ้า มีลักษณะเป็นปื้น มักขึ้นบริเวณใบหน้าที่โดนแสงแดดบ่อย เช่น บริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม จมูก คาง และอื่นๆ
กระ มีหลายชนิด คือ
(1)กระแดด ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล ขอบชัด ขนาน 0.3-2 ซม.
(2)กระตื้น ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน ขนาดเล็ก
(3)กระลึก ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทาขนาดเล็กที่โหนกแก้ม
(4)กระเนื้อ ลักษณะเป็นตุ่มนูน สีน้ำตาล ดำ
ปัจจัยที่ทำให้เกิด ฝ้า กระ
1.ปัจจัยภายนอก : ผิวถูกแสงแดดทำร้าย(รังสีอัลตร้าไวโอเลต) เครื่องสำอาง การได้รับยาหรือฮอร์โมนบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
2.ปัจจัยภายใน : การไหลเวียนเลือดและพลังงานไม่สมบูรณ์ มีการสะสมของเสียอยู่ภายใน รวมถึงฮอร์โมนตามธรรมชาติ เช่น ฮออร์โมนในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ประจำเดือนไม่ปกติ อายุ พันธุกรรม
ตามศาสตร์แพทย์จีนจะมีสามอวัยวะหลักที่เกี่ยวข้อง คือ ตับ ม้าม และ ไต
ตับ : ดูแลเลือด การกักเก็บและการไหลเวียนเลือด เมื่อการไหลเวียนติดขัด ของเสียยังคงคั่งค้างอุดตันอยู่ภายในจนเกิดฝ้า เกิดความร้อน ทำลายสารน้ำของไตต่อไป
ม้าม : มีหน้าที่ดูแลการกระจายไหลเวียนพลังงาน เมื่อม้ามอ่อนแรง การไหลเวียนพลังงานไม่ทั่วถึง เกิดของเสียคั่งค้างตามบริเวณใบหน้า
ไต : การเหนื่อยล้าเกินไป และความร้อนภายใน ทำร้ายสารน้ำของไตได้ เมื่อน้ำคุมไฟไม่ได้จึงเกิดความร้อนขึ้นด้านบนจนเกิดฝ้า
พฤติกรรมอะไรที่ควรเลี่ยง
พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงคือ การออกพื้นที่ที่แดดแรงจัด หรือ ออกแดดโดยไม่ลงครีมกันแดด
เลี่ยงการทำกิจกรรมใดๆที่เหนื่อยเกินไป เหนื่อยสะสม
หากต้องใช้ยาฮอร์โมน ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์
วิธีการรักษาตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
1. ทานยาสมุนไพรจีน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การกระจายพลังงาน และบำรุงสารน้ำในตัวตามความเหมาะสมรายบุคคล
2. ฝังเข็ม ช่วยปรับสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆ ปรับสมดุลเลือด-พลังงาน ฮอร์โมนได้ดี
3.นวดกดจุด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนบริเวณใบหน้า
เขียนโดย พจ.ฐรัศมิ์ พสุธาสถิตย์