ง่วงนอนตลอดเวลา…

ง่วงนอนตลอดเวลา

มักเกิดจากสาเหตุ

  1. การนอนไม่มีคุณภาพ ระยะหลับลึกไม่เพียงพอ หลับๆตื่นๆ หยุดหายใจขณะนอนหลับ แม้ว่าจำนวนชั่วโมงจะครบหรือเกิน 8 ชม. ก็ไม่ได้หมายถึงเราพักผ่อนเพียงพอ
  2. สาเหตุสุขภาพ การแพ้อาหารอย่างการแพ้กลูเตน (โปรตีนในพืช พบมากในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด) เมื่อได้รับอาหารที่มีส่วนประกอบของกลูเตนอาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อารมณ์แปรปรวน ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น ฮอร์โมนผิดปกติอย่างไฮโปไทรอยด์ ไม่มีพลังงานทำกิจกรรม และเมตาบอลิซึมทำงานช้าลง โรคอย่างโรคซึมเศร้า จะเกิดอาการทางร่างกายเกี่ยวกับความรู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง นอนไม่เต็มอิ่ม หลับๆตื่นๆเป็นต้น หรืออย่างโรคโลหิตจาง จะมีอาการง่วงนอนบ่อย ความคิดความอ่านช้าลง
  3. ผลข้างเคียงจากการใช้ยา จะเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ใช้ยา ผลข้างเคียง เช่น ง่วงนอน ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
  4. ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ มักเริ่มจากการนอนกรนเกิดจากเนื้อเยื่อคอหรือลิ้นหย่อนลงไปปิดทางเดินหายใจส่วนต้น ยิ่งร่างกายพยายามหายใจเข้าทำให้ทางเดินหายใจแคบขึ้นจนปิดสนิท เมื่ออากาศไม่สามารถผ่านทางเดินที่ปิดสนิท ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายไม่ได้ สมองขาดออกซิเจน ทำให้ผู้ป่วยตื่นเพื่อปรับตำแหน่งลิ้นใหม่

ส่วนในทางศาสตร์จีนนั้นเกิดจาก 4 สาเหตุหลักๆ

  1. ความชื้นสะสมในม้าม มักมีอาการร่วมกับมึนศรีษะ รู้สึกร่างกายหนักไม่อยากขยับตัว หรือในบางรายมีอาการบวมน้ำ รู้สึกแน่นหน้าอก จุก ทานข้าวได้น้อย
  2. เลือดลมติดขัด มักมีอาการร่วมกับปวดหัว เวียนหัว หรือมีประวัติการบาดเจ็บจากภายนอกมาก่อน
  3. เลือดลมพร่อง มักมีอาการร่วมกับร่างกายไม่มีแรง หน้าซีดตัวซีด อุจจาระร่วน
  4. พลังหยางไม่พอ หรือพลังความร้อนในร่างกายไม่พอนั้นเอง มักมีอาการร่วมกับสติลอย รู้สึกหมดแรง มือเย็นขี้หนาว หน้าซีด

สำหรับคนที่มีอาการตอนนี้เราอาจจะเริ่มทราบคร่าวๆแล้วว่าเราอยู่ในกลุ่มประเภทไหนทีนี้เราลองมาดูวิธีการแก้กันค่ะ

  1. ปรับเปลี่ยนเวลาการนอน ตามเวลาของนาฬิกาชีวิตแล้วเราไม่ควรนอนดึกเกิน 5 ทุ่มเพราะเนื่องจากเวลา 5 ทุ่มเป็นเวลาของอวัยวะถุงน้ำดี ถ้าเรานอนดึกกว่านั้นเมื่อถุงน้ำดีร้อนส่งผลให้ตับร้อนและเลือดในร่างกายจะร้อนส่งผลต่อความสมดุลของร่างกาย อีกทั้งถ้าเรานอนไม่เกิน5ทุ่ม เราจะหลับลึกในช่วงเวลาเที่ยงคืน-ตีหนึ่ง จะเป็นช่วงที่ร่างกายได้รับโกรทฮอร์โมนได้อย่างเต็มที่ วิธีการนี้จะช่วยให้ร่างกายพักผ่อนเต็มที่มากขึ้นและไม่มาง่วงนอนกลางวัน
  2. ไม่นอนกลางวันพร่ำเพรื่อ เราสามารถนอนกลางวันได้ในช่วงเวลา11-บ่ายโมง ครั้งละไม่เกิน1ชม. และไม่ควรนอนกลางวันเวลาอื่นเพราะจะทำให้ยิ่งนอนยิ่งง่วง
  3. อย่าคิดมากจนเกินเหตุ ความกังวลกับความเครียดที่มากเกินไปส่งผลกระทบต่อการนอนกลางคืน ทำให้มาง่วงนอนช่วงกลางวัน และมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลหรือโรคย้ำคิดย้ำทำอีกด้วย อีกทั้งการคิดมากเกินไปในทางศาสตร์จีนส่งผลต่อระบบย่อย ทำให้ย่อยอาหารไม่ดี อุจจาระร่วน ท้องอืด หรือความอยากอาหารผิดปกติอีกด้วย
  4. ทานอาหารบำรุง อย่างทับทิมช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดแดง ช่วยการหมุนเวียนของเลือด ลดอาการอ่อนเพลีย ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆอย่างสตอเบอร์รี่ เชอรี่ ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง ขจัดเลือดเสีย แก้วมังกรมีธาตุเหล็กเยอะช่วยการหมุนเวียนเลือดลดการอ่อนเพลียระหว่างวันได้ค่ะ

หากลองแก้ด้วยวิธีเบื้องต้นด้านบนแล้วยังมาอาการง่วงนอนตลอดเวลาหรืออ่อนเพลียอยู่ลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่ไป๋ฮุ่ยถังคลินิกได้นะคะ

Scroll to Top